วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ใบงานที่ 3 บทความและสารคดีที่สนใจ



เทคนิคการฝึกสมองให้ฉลาด



                สมองคือส่วนสำคัญที่สุดของคนในการคิด ฝึกหัด กลั่นกรองข้อมูลข่าวสารเรื่องราวต่างๆ หากสมองขาดการคิดและการกระตุ้น ก็ไม่ต่างอะไรกับซอมบี้ และหากขาดการใช้งานบ่อยๆ เซลล์ต่างๆ ที่สำคัญที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความสามารถ ประสิทธิภาพด้านต่างๆ ก็จะดูด่อยค่าลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น คนเราจึงจำเป็นต้องบริหารสมองอยู่เสมอ การฝึกสมองมีหลายเทคนิคให้เลือกใช้ แต่จงใช้อย่างมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด วันนี้จะมาเขียนเรื่องราวของ ทำอย่างไรให้สมองเราสามารถใช้งานได้ดี และมีเทคนิคการฝึกสมองอย่างไร ให้เราเป็นคนฉลาดอยู่เสมอ
10 เทคนิคการพัฒนาสมองอยู่เสมอ



1.จิบน้ำบ่อยๆ (Drink water very often) สมองประกอบด้วยน้ำ 85 % เชลล์สมอง ก็เหมือนต้นไม้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยง ถ้าไม่มีน้ำ ต้นไม้ก็เหี่ยว ถ้าไม่อยากให้เชลล์สมองเหี่ยว ซึ่งส่งผลให้การส่งข้อมูลช้า กลายเป็นคนคิดช้าหรือคิดไม่ค่อยออก แต่ละวันจึงควรดื่มน้ำบ่อย ๆ
2.กินไขมันดี (Enjoy good Omega 3) คนไม่ค่อยรู้ว่าสมองคือก้อนไขมัน ซึ่งจำเป็นต้องมีไขมันดีไปทดแทนส่วน    ที่สึกหรอ แนะนำให้กินไขมันดีระหว่างวัน จำพวกน้ำมันปลา สารสกัดใบแปะก๊วยปลาที่มีไขมันดีอย่าง ปลาแซลมอน นมถั่วเหลือง วิตามินรวม น้ำมันพริมโรสเป็นน้ำมันดี ที่ทำให้เชลล์ชุ่มน้ำ ส่วนวิตามินซีกินแล้วสดชื่น


3.นั่งสมาธิวันละ 12 นาที (Meditation 12 min a day) หลังจากตื่นนอนแล้ว ให้ตั้งสติและนั่งสมาธิทุกเช้า วันละ 12 นาที เพื่อให้สมองเข้าสู่ช่วงที่มีคลื่น Theta ซึ่งเป็นคลื่นที่ ผ่อนคลายสุด ๆ ทำให้สมองมี Mental Imagery สามารถจินตนาการ เห็นภาพและมีความคิดสร้างสรรค์ ( ถ้าทำไม่ได้ตอนเช้า ) ให้หัดทำก่อนนอนทุกวัน
4.ใส่ความตั้งใจ (Program the brain: have specific intention) การตั้งใจในสิ่งใดก็ตาม เหมือนการโปรแกรมสมองว่านี่คือสิ่งที่ต้องเกิด ระหว่างวันสมองจะปรับพฤติกรรมเราให้ไปสู่เป้าหมายนั้น ทำให้ประสบความสำเร็จในสิ่งต่าง ๆ เพราะสมองไม่แยกระหว่างสิ่งที่ทำจริงกับสิ่งที่คิดขึ้น ทั้งสองอย่างจึงเป็นเสมือนสิ่งเดียวกัน
5.หัวเราะและยิ้มบ่อยๆ (Laugh and Smile) ทุกครั้งที่ยิ้มหรือหัวเราะ จะมีสารเอ็นโดรฟินซึ่งเป็นสารแห่งความสุข หลั่งออกมาเท่ากับเป็นการกระตุ้น ให้มีความอยากรักและหวังดีต่อคนอื่นไปเรื่อย ๆ


6.เรียนรู้สิ่งใหม่ทุกวัน (Learn new thing everyday) สิ่งใหม่ในที่นี้หมายถึง สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น กินอาหารร้านใหม่ ๆ รู้จักเพื่อนใหม่ อ่านหนังสือเล่มใหม่ คุยกับเพื่อนร่วมงานและเรียนรู้วิธีการทำงานของเขา เป็นต้น เพราะการเรียนรู้สิ่งใหม่ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และโดปามีน ซึ่งเป็นสารแห่งการเรียนรู้ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้และ สร้างสรรค์ ไปเรื่อย ๆ เมื่อมีความสุขก็ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์


7.ให้อภัยตัวเองทุกวัน (Forgive yourself, reduce brain stress) ขณะที่การไม่ให้อภัยตัวเอง โกรธคนอื่น โกรธตัวเอง ทำให้เปลืองพลังงานสมอง การให้อภัยตัวเอง เป็นการลดภาระของสมอง
8.เขียนบันทึก Graceful Journal (Write graceful journal, good things in life every day) ฝึก เขียนขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นแต่ละวันลงในสมุดบันทึก เช่น ขอบคุณที่มี ครอบครัวที่ดี ขอบคุณที่มีสุขภาพที่ดี ขอบคุณที่มีอาชีพที่ทำให้มีความสุข เป็นต้น เพราะการเขียนเรื่องดี ๆ ทำให้สมองคิดเชิงบวก พร้อมกับหลั่งสารเคมีที่ดีออกมา ช่วยให้หลับฝันดี ตื่นมาทำสมาธิได้ง่าย มีความคิดสร้างสรรค์
9.ฝึกหายใจลึกๆ (Deep breath) สมองใช้ออกซิเจน 20 .25% ของออกซิเจนที่เข้าสู่ร่างกาย การฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จึงเป็นการส่งพลังงานที่ดีไปยังสมอง ควรนั่งหลังตรงเพื่อให้ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น ถ้านั่งทำงานนาน ๆ อาจหาเวลายืนหรือเดินยึดเส้นยืดสายเพื่อให้ปอดขยายใหญ่ สามารถหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอดได้เพิ่มขึ้นอีก 20 % การมีสมองที่ดีก็เหมือนทักษะทุกอย่างในโลกที่ เรียนรู้ได้ แต่จะเก่งหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ถ้าเราดูแลและฝึกฝนสมองให้ดี คุณภาพชีวิตก็จะดีตาม
10.แค่ปฏิบัติตามทุกข้อที่กล่าวมาก็จะทำให้สมองเกิดการพัฒนามากยิ่งขึ้น



ขอบคุณข้อมูลดีดี : http://campus.sanook.com/925988/



 เทคนิคการฝึกให้ตนเองฉลาดขึ้น


 "นิตยสารนิวส์วีค" กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงอยากจะถูกชมว่าเป็นคนฉลาดด้วยกันทั้งนั้น

          หลาย คนเชื่อว่า ความฉลาดเป็นสิ่งที่ติดมากับตัว ถ้าโตแล้วก็คงหมดโอกาสที่จะทำให้ตัวเองฉลาดขึ้น ...หลายคนเลยปักใจเชื่อว่าตัวเองเป็นคนไม่ฉลาดจนยากจะเยียวยา
     แต่ความจริงแล้ว คนส่วนใหญ่ใช้สมองไม่เต็มศักยภาพที่ตัวเองมี ทั้งเพราะความเคยชินและต้องการความสะดวกสบายถ้า หากเมื่อไหร่ที่สมองส่วนที่ถูกละเลย ได้รับการบริหารด้วยการคิดแบบมีระบบ ก็จะช่วยให้คนๆ นั้นกลับมาเป็นคนที่ใช้สมองได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือที่หลายคนเรียกว่า ฉลาดขึ้นนั่นเอง

เทคนิคง่าย 25 วิธีพัฒนาความฉลาด


1. เล่นทายปัญหากับเพื่อนๆ
การเล่นทายปัญหาอาจดูเหมือนเป็นเรื่องของเด็กๆ และเสียเวลา แต่จริงๆ แล้วมีผลการวิจัยออกมารองรับว่าการทายปัญหาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยง ในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ลง ... การเล่นเกมทางโทรศัพท์ก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะช่วยบริหารสมองได้อีกทางหนึ่ง


2. กินขมิ้นให้บ่อย
ขมิ้นในที่นี้ก็หมายถึงขมิ้นที่อยู่ในอาหารไทยของเรานี่แหละ เชื่อกันว่าขมิ้นมีสารประกอบบางอย่างที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซ เมอร์ลง

3. เล่นสควอชหรือเต้นรำ
กิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะทำให้หัวใจเต้นแรงแล้ว ก็ยังบังคับให้เราต้องใช้สมองไปในเวลาเดียว

4. ดูข่าวจากสำนักข่าวอัลจาซีร่า
จากการศึกษาในปี 2009 พบว่า ผู้ที่ชมข่าวจากอัล จาซีร่า ภาคภาษาอังกฤษ จะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้มากกว่าคนที่ดูข่าวจาก ซีเอ็นเอ็น หรือ บีบีซี ซึ่งการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ก็ย่อมจะทำให้เราฉลาดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย


5. โยนโทรศัพท์ทิ้งบ้าง
แม้ปัจจุบันจะเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร แต่การปิดโทรศัพท์หรือปิดอินเตอร์เน็ตในบางช่วง ก็ทำให้เรามีสมาธิกับงานที่ทำมากขึ้น
6. นอนให้เยอะ
ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า แม้เราจะหลับไปแล้วแต่สมองของคนเราจะยังคงพัฒนาในด้านความจำต่อไป และการพักผ่อนให้เต็มที่จะช่วยให้เราเรียกเอาความจำเหล่านั้นกลับมาได้ดี ขึ้นในภายหลัง

7. หาเวลาไปงานเทศกาลหนังสือ
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าหนังสือเป็นคลังของความรู้อยู่แล้ว



8. สร้างกล่องความทรงจำขึ้นด้วยตัวเอง
เทคนิคที่จะทำให้เราจำเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น ก็คือการจำเรื่องต่างๆ โดยนำไปเชื่อมโยงกับภาพ เช่น เห็นภาพๆ หนึ่ง ทำให้นึกถึงเรื่องราวหนึ่งขึ้นมาได้




9. เรียนภาษาที่ 2 ที่ 3
การเรียนภาษาที่ 2 หรือที่ 3 จะช่วยให้สมองในส่วนของ Prefrontal cortex ซึ่งส่งผลต่อการใช้เหตุผลใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ-ทำงานได้ดีมากขึ้น


10. กินดาร์กช็อกโกแลต
ดาร์กช็อกโกแลตอาจไม่ได้ช่วยเพิ่มความฉลาดให้เรา แต่มันช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยต่อต้านสารต้านอนุมูลอิสระและจะส่งผลต่อระบบไหลเวียน เลือด


11. ถักนิตติ้ง
การถักนิตติ้งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการกระบวนการจัดลำดับความคิด

12. ไม่ยิ้มบ้างก็ได้
จากการวิจัยพบว่าการทำหน้าตาสงสัยเป็นการแสดงออกที่ง่ายที่สุดว่าคุณกำลังใช้ความคิดอยู่


13. เล่นเกมที่โหดๆ
หมายถึงการเล่นบ้างเป็นครั้งคราว เพราะการเล่นเกมที่โหดๆ บ้างจะช่วยลดความรู้สึกตึงเครียดจากการทำงานหรือเรื่องต่างๆ ของคุณลงได้


14. ฟอลโลว์ทวิตเตอร์คนดังที่น่าสนใจ
จะช่วยให้คุณได้มุมมองในการดำเนินชีวิตแบบใหม่มาใช้ ยกตัวอย่างเช่น นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์แห่งคณะบัญชีและการเงินของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก


15. กินโยเกิร์ต
ในโยเกิร์ตมีโพรไบโอติก ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งก็รวมไปถึงช่วยให้มีความจำดีอีกด้วย


16. โหลดโปรแกรมช่วยจำอย่าง SuperMemo มาใช้
การจำอะไรได้เองก็เป็นเรื่องดี แต่บางทีเราอาจมีเรื่องที่ต้องจดจำมากเกินไป ดังนั้น หากมีโปรแกรมดีๆ ช่วยจดจำตารางงานอีกทางหนึ่ง ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น


17. ตรวจสอบระบบการทำงานของสมอง
เดเนี่ยล คาห์เนมัน กล่าวเอาไว้ว่า รูปแบบความคิดของเรามี 2 ลักษณะคือ คิดเร็วและเป็นไปแบบอัตโนมัติ กับคิดช้าและต้องใช้ความพยายามมากหน่อย การเรียนรู้การทำงานของสมองจะช่วยให้เราตรวจสอบตัวเองได้ว่า ขณะนั้นระบบความคิดของเราเป็นไปในลักษณะใด

18. ดื่มน้่ำให้มาก
การขาดน้ำจะทำให้สมองทำงานหนักและอาจลดความสามารถในการวางแผนลงไป
19. เล่นดนตรี
การจดจำตัวโน้ต เพื่อเล่นดนตรีช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในด้านความจำและการจัดลำดับความคิด
20. เขียนสิ่งต่างๆด้วยมือ
การพิมพ์อาจจะทำได้สะดวกและรวดเร็วกว่าก็จริง แต่การเขียนจะทำให้สมองได้ทำงานมากกว่า เพราะกลไกของการเขียนมีความซับซ้อนมากกว่าการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์

21. ปล่อยให้สมองได้คิดในเรื่องต่างๆบ้าง
การตั้งคำถามกับเรื่องต่างๆ เพื่อให้สมองได้คิดบ้าง เป็นการบริหารสมองอย่างหนึ่ง

22. ดื่มกาแฟ
มีการสำรวจว่าผู้หญิงที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้ว จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าน้อยกกว่าผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 1 แก้วต่อสัปดาห์

23. รู้จักเก็บความรู้สึกพึงพอใจ
มีการศึกษาว่า เด็กที่มีความต้านทานต่อการกินขนมหวานได้นานกว่า จะมีคะแนนสอบที่ดีกว่าเด็กที่หยิบมันขึ้นมากินเลยในทันที

24. เขียนรีวิวเรื่องต่างๆ ลงบล็อก
การลงมือเขียนสิ่งต่างๆ ลงบล็อกส่วนตัว จะทำให้สมองของเราทำงานเป็นระบบโดยอัตโนมัติ เพราะเราต้องเริ่มตั้งแต่การลำดับความคิด การเรียบเรียงสิ่งที่จะเขียน การเลือกภาษามาใช้เขียนและสร้างสรรเรื่องราวต่างๆ ออกมา 


25. ออกนอกเมืองบ้าง
การออกไปเปิดหูเปิดตานอกเมือง จะช่วยให้สมองได้รับมือกับสิ่งเร้าที่น่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ถือเป็นการพัฒนาสมองในอีกทางหนึ่ง

ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : https://blog.eduzones.com/studyabroad/


ขอบคุณสำหรับการชม











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น